Starcat HelpDesk คือ ผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแจ้งปัญหาและติดตามการแก้ไขปัญหาของการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยเรียกใช้งานผ่าน Client Utility ที่มาพร้อมกับ Agent ที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่ไอทีจะมีระบบกลางในการรวบรวมคำขอแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และบริหารจัดการคำขอได้อย่างมีระบบ ตามมาตรฐานของการให้บริการด้านไอที (IT Service Management) โดยสามารถกำหนดระดับความสำคัญ (Priority) กระจายงานโดยผู้ดูแลหรือตามเงื่อนไข (Business Rule) ระดับคุณภาพการให้บริการ (Service Level Agreement) รวมไปถึงการวัดผลความพึงพอใจในการรับบริการ (User Survey) ได้ เป็นต้น
ฟังก์ชั่นการทำงานหลักของซอฟแวร์
Service Request
แจ้งปัญหาผ่านโปรแกรมเอเจนท์เว็บบราวเซอร์โดยสามารถบันทึกการรับแจ้งได้ด้วยตนเอง หรือเจ้าหน้าที่รับแจ้งปัญหาทางโทรศัพท์และอีเมล์ผ่านโปรแกรมควบคุมโดยสามารถบันทึกหมายเลขรับแจ้งชื่อเรื่องที่แจ้งประเภท/ชนิดของปัญหา, ความเร่งด่วน, รายละเอียดของปัญหาและรายละเอียดของผู้แจ้งปัญหา เช่น รหัสพนักงาน, ชื่อ-นามสกุล, หน่วยงาน, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล์
Case Management
สร้างหมายเลขรับแจ้งโดยอัตโนมัติและสามารถกำหนดให้แจ้งเตือนผ่านอีเมล์ไปยังผู้แจ้งปัญหาหรือผู้ให้บริการเมื่อมีงานใหม่เกิดขึ้น
Business Rule
กำหนดเงื่อนไขในการให้บริการ เช่น การส่งอีเมลแจ้งเตือนการเปลี่ยนสถานะ การกำหนดงานให้กับผู้ให้บริการหรือกลุ่มผู้ให้บริการตามประเภทของปัญหา การกำหนดความสำคัญและเร่งด่วนของปัญหาตามผู้แจ้งปัญหา เป็นต้น
Service Level Agreement
กำหนดคุณภาพในการให้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น กำหนด Due Date ในการให้บริการตามประเภทของปัญหา ผู้แจ้งปัญหา ความสำคัญของปัญหาพร้อมกำหนดเวลาการแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนและหลังเวลาให้บริการ และฟังก์ชั่นการแจ้งปัญหาที่ไม่ได้รับการบริการตามเวลาที่กำหนด (Escalation) ไปยังผู้ดูแลการให้บริการระดับสูงขึ้นไปได้ 4 ระดับ
Service Management
สามารถตรวจสอบรายละเอียดของปัญหา ข้อมูลของผู้แจ้งปัญหารายละเอียดของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แจ้งปัญหา ประวัติการแจ้งปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์สัญญาของเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งสามารถสั่งพิมพ์ใบแจ้งปัญหาเพื่อใช้ในการให้บริการได้
Service Tracking
ตรวจสอบและค้นหาสถานะของงานหรือดูประวัติการแจ้งซ่อมย้อนหลังได้ตามหมายเลขรับแจ้ง ช่วงเวลา สถานะของงาน โดยแสดงรายละเอียดของงานและบันทึกเวลาที่มีการเปลี่ยนสถานะ แสดงเวลารวมที่ใช้ไปทั้งหมดพร้อมระบุผู้รับผิดชอบในแต่ละสถานะ
Knowledgebase
สร้างองค์ความรู้สำหรับให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหา โดยสามารถสร้างประเภทขององค์ความรู้กำหนด keyword สำหรับการค้นหาองค์ความรู้และระบบอนุมัติองค์ความรู้ก่อนการเผยแพร่
User Survey
สร้างคำถามและตัวเลือกคำตอบสำหรับสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการ
System Setting
ตั้งค่าระบบให้เหมาะสมกับองค์กร ผู้บริหารระบบสามารถสร้างประเภท/ชนิดของปัญหา, ระดับความสำคัญ, ระดับความเร่งด่วน, สถานะของงาน, วัน-เวลาให้บริการ, กำหนดวันหยุด
User Management
สร้างบัญชีรายชื่อผู้ให้บริการโดยสามารถจัดกลุ่มของผู้ให้บริการ, กำหนดเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่กระจายงานหลักของระบบและเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่กระจายงานของกลุ่มพร้อมทั้งกำหนดสิทธิ์ในการใช้งานระบบและสร้างบัญชีรายชื่อผู้แจ้ง